พอดีเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจมีอายุงาน 1 ปีนิดๆ เงินเดือน 15,000 บาท แต่ทำงานมีสวัสดิการกับ ธอส
วันนี้เลยส่งสลิปเงินเดือนให้ ธอส ดู เพื่อขอกู้คอนโด พนักงานบอกว่า กู้ 1,700,000 สบายๆ
เค้าบอกว่าช่วงนี้ดอกเบี้ยถูกวงเงินเลยได้เยอะ
ปีแรกผ่อนเดือนละ 7,000 กว่า (ดอก 3.5%) ปีที่ 2 ดอก 4.5%
มันได้วงเงินขนาดนี้จริงหรอคับ แล้วเคสนี้ถ้าไปยื่นที่อื่นเช่น ออมสิน เค้าจะให้ประมาณนี้มั้ยครับ(เห็นโปรครบ 100 ปี มันน่าสนใจดีคับ)
เงินเดือน 15,000 บาท อยากมีบ้าน กู้ได้เท่าไหร่ ประกันสังคมทำแบบประกันตน ไม่ได้เอาเข้ากับบริษัท เพราะทำเหมือนเป็นฟรีแลนซ์ แต่ทำประจำ (งงมะ คือบริษัทให้เงินค่าประกันมา ให้ไปทำประกันตนเอง เพราะบริษัทเป็นบริษัทขายของออนไลน์ แล้วมีพนักงานสามคนที่เป็นประจำ เลยไม่ได้ทำ ปกส ไว้ )
อยากทราบว่าถ้าไม่ได้กู้ร่วม จะกู้ได้เท่าไหร่ แล้วถ้าหาบ้านมือสอง จะต้องเตรียมเงินดาวน์ไว้เท่าไหร่ครับ
บ้านที่เล็งไว้ 1.2-1.5ล (ถ้าจำเป็น คงต้องเป็น 1.8ล) เลยอยากทราบว่า พอจะกู้ผ่านไหม
ตอนนี้ยังไม่แต่งงาน ยังไม่คู่ครอง ไม่มีภาระการผ่อนอะไร เงินเข้าบัญชีทุกเดือนแต่ไม่คงที่ (ไม่ต่ำกว่า 15,000 ไม่เกิน17 เฉลี่ย 15ปลาย-16ต้น)
ช่วยแนะนำด้วยครับ
Tag ผิด ถูกยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
อยากจะซื้อบ้านให้ พ่อ กับ แม่น่ะค่ะ แต่ฐานเงินเดือนแค่15,000 ถ้าซื้อบ้านราคา 1.6 ล้านจะกู้ได้ซักเท่าไหร่คะ
อยากทำให้พ่อกะแม่สบายน่ะค่ะ รบกวนเพื่อนๆชาวพันธ์ทิพย์ช่วยตอบให้หน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ จขกท. อยากกู้เงินซื้อบ้านอยากทราบว่าธนาคารจะปล่อยกู้ประมาณเท่าไหร่ค่ะ
สนใจทาวน์โฮมแถวประชาอุทิศต้นๆซอย – ระแวกพระประแดงค่ะ
ลองๆหาดูทั้งมือ 1 มือ 2 ราคาจะอยู่ราวๆ 2.5 ล้านบาท
ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ทำงานรัฐวิสาหกิจ
มีรายได้เสริมจากการขายสินค้าผ่านเน็ต เดือนละ 2000-3000 บาท (มีหลักฐานบัญชีธนาคาร)
ภาระหนี้สินมี
-บัตรเครดิตรายเดือน (จ่ายเต็มทุกเดือน)
-ซื้อหุ้นสหกรณ์ เดือนละ 2000
-บัตรเฟิร์สช้อย ค่าเครื่องซักผ้าเดือนละ 800
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
“จากกระทู้พันทิปได้มีการถามมาต่างๆนาๆว่า เงินเดือน 15,000 สามารถกู้ซื้อบ้าน
ได้หริอเปล่าจึงได้ทําการคํานวณให้ดูคร่าวๆว่าต้องใช้จํานวนเงินเป็นเท่าใหร่”
เคล็ดลับที่ 1 คำนวณหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อบ้านได้
จากหลักของการกู้ทั่วไปมีอยู่ว่า “ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น”
ตัวอย่างเช่น ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนบ้านสูงสุดได้ 15,000 x 40% = 6,000 บาทซึ่งก็คือหากผู้กู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจะสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท ที่สำคัญเราต้องไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่น ๆ หากเรามีหนี้สินอื่น ๆ เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,000 บาท ก็ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง (6,000 – 5,000) เหลือเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้นนะครับ
ผมจะแสดงข้อมูลว่า ถ้าเราสามารถผ่อนบ้านเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท จะสามารถกู้ซื้อบ้านได้วงเงินตามนี้ครับ
ระยะเวลาในการผ่อนชำระ วงเงินที่สามารถกู้ได้ 15 ปี 647,000 บาท 20 ปี 744,000 บาท 25 ปี 811,000 บาท 30 ปี 858,000 บาท 35 ปี 889,000 บาท โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5
เคล็ดลับที่ 2 หาโครงการบ้านที่อยู่ในวงเงินที่เราสามารถกู้ได้เมื่อคำนวณจากเคล็ดลับที่ 1
สมมติว่า เราเลือกจะผ่อนชำระที่ 30 ปี จะสามารถกู้ได้ 858,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโครงการที่ราคาต่ำกว่าล้านอยู่หลายโครงการเลยนะครับ เช่น คอนโดแถบชานเมือง หรือในแถบปริมณฑลก็ยังมีราคาไม่ถึงล้านอยู่เยอะครับ หรือถ้าเพื่อน ๆ อยู่ที่ต่างจังหวัดก็ยิ่งมีโครงการราคาต่ำกว่าล้านมากมายครับ หรือถ้าเพื่อน ๆ สนใจเป็นบ้านมือสองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะบ้านมือสองสภาพดีราคาไม่ถึงล้านก็มีอยู่ในตลาดมือสองให้เลือกมากมายครับ (คลิกที่นี่เพื่ออ่านวิธีการจัดการเงินกู้บ้านแบบยิ้มได้)
เคล็ดลับที่ 3 ทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี
ถ้าเพื่อน ๆ มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนชำระต่าง ๆ หนี้สินของบัตรต่าง ๆ ตรงนี้จะไปแสดงที่เครดิตบูโรของเราครับ หากเพื่อน ๆ มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ไม่ตรงต่อเวลา ผิดนัดจ่ายหนี้กับธนาคาร หรือเบี้ยวหนี้ไม่จ่ายเลย เครดิตบูโรก็จะขึ้น Blacklist ซึ่งหมายความว่า เมื่อเราไปยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคารแล้วทางธนาคารไปตรวจสอบเครดิตบูโรของเราก็จะเห็น Blacklist ของเรา ซึ่งอาจทำให้เพื่อน ๆ กู้ซื้อบ้านได้ยากขึ้น เพราะธนาคารก็ไม่มั่นใจว่า เราจะจ่ายค่างวดให้เค้าได้หรือไม่ และยังมีอีกกรณีหนึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะเกินไป ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ติด Blacklist นะครับ แต่เมื่อธนาคารทำการประเมินรายได้ของเราแล้วปรากฏว่า แค่ยอดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนสำหรับบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดแต่ละใบของเราในแต่ละเดือน ก็ไม่พอที่จะส่งค่างวดสำหรับสินเชื่อบ้านแล้ว แบบนี้ธนาคารก็คงอนุมัติให้ผ่านยากครับ ดังนั้น เพื่อน ๆ ควรทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี เช่น ชำระหนี้ให้ตรงต่อเวลา ไม่ผิดนัดจ่ายหนี้ ไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสดมากเกินไป หรือทางที่ดีที่สุดคือไม่ก่อหนี้เลย เหมือนคำพระที่ว่า “การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ” (อ่านวิธีเลือกสินเชื่อบ้านให้ผ่อนได้สบาย ๆ ได้ที่นี่)
เคล็ดลับที่ 4 หาผู้กู้ร่วม
ในกรณีที่เพื่อน ๆ อยากจะมีวิมานในฝันที่หลังใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ลำพังแค่เงินเดือนของเราอาจจะได้ยอดเงินกู้ไม่เพียงพอ เราก็จำเป็นต้องหาผู้กู้ร่วม เพื่อเพิ่มวงเงินกู้ให้มากขึ้นนะครับ ในกรณีที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่กู้คนเดียวไม่ผ่านหรือรายได้ไม่พอ การกู้ร่วมก็เป็นทางออกหนึ่งของปัญหาที่นิยมเลือกใช้กันมากครับ โดยความหมายของผู้กู้ร่วม หมายถึง ลูกหนี้ร่วม ในทางกฎหมายลูกหนี้ร่วมจะต้องรับผิดชอบหนี้เป็นส่วนเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น และในบางสถาบันการเงินจะกำหนดให้ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้ในฐานะที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันหรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตรและสามีภรรยา หรือถ้าแต่งงานกันแล้วและยังไม่ได้จดทะเบียน ผู้กู้ร่วมก็ต้องแสดงหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ เช่น ทะเบียนบ้านที่แสดงว่าปัจจุบันอยู่ด้วยกัน หรือถ้ามีบุตรก็ต้องแสดงใบเกิดที่ระบุชื่อพ่อแม่
ในการซื้อบ้านแบบการกู้ร่วมสามารถทำได้ 2 แบบ คือ
- กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของคน ๆ เดียว แต่เวลากู้ยืมใช้คนหลายคนมากู้ร่วม
- การกู้ร่วมโดยใส่ชื่อผู้กู้ทุกคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม
credit : https://www.krungsri.com,www.yimsu.com